จังหวัดพิจิตร ซึ่งการประชุมมีการนำองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่รับน้ำเข้าร่วมด้วยเพื่อบูรณาการในการแก้ปัญหาและการป้องกัน



โดยผู้ว่าฯ ได้สั่งการในที่ประชุมให้ทุกหน่วยมีความพร้อมรับมือ มวลน้ำเหนือก้อนใหญ่ที่เข้าสู่จังหวัด หลังจากที่มีการปักธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนประชาชน และสั่งการให้ทุกอำเภอ และทุกหน่วยงาน ปักไม้วัดระดับน้ำในทุกพื้นที่ของตนเองเพื่อดูอัตราการขึ้นลงของน้ำ
นายสมยศ เอมใจ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ประทับช้าง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำยมที่บริเวณ หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9 ตำบลวังจิก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตอำเภอโพธิ์ประทับช้าง พบว่ามวลน้ำที่ไหลจากตอนบนที่ไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพิจิตร เริ่มส่งผลกระทบ โดยน้ำได้เอ่อท่วมบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำยม
เบื้องต้นท่วมขังแล้วประมาณ 50 หลังคาเรือน ระดับน้ำ 60-80 เซนติเมตร และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การช่วยเหลือเบื้องต้นร่วมกับอำเภอโพธิ์ประทับช้าง สำรวจข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงจัดเตรียมเรือท้องแบน อุปกรณ์สำหรับการช่วยเหลือในกรณีประชาชนต้องการความช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกต่อไป
นายสายัณห์ กาวีวงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิต กล่าวว่า สถานการณ์แม่น้ำยมยังน่าเป็นห่วง ซึ่งขณะนี้น้ำจากสุโขทัยลงมาถึงแล้ว และมีบางส่วนไหลเข้าท่วม อำเภอสามง่าม 3 ตำบลคือ ตำบลรังนก ตำบลกำแพงดิน ตำบลสามง่าม 14 หมู่บ้าน น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน 387 หลังคาเรือน น้ำท่วมสูง 50-80 ซม. นอกจากนี้ในส่วน อำเภอโพธิ์ประทับช้าง น้ำยมอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่ง 3 หมู่บ้าน 50 หลังคาเรือน