เปิดพฤติการณ์ พนักงานที่ดิน เรียกรับ 1 แสน ก่อนถูกบุกจับจนเป็นลม เผยอีก 26 วันจะเกษียณ

จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นางเบ็ญจา อายุ 60 ปี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยอง สาขาบ้านค่าย เรียกรับเงินจากผู้เสียหายในการจัดสรรที่ดิน เ...




จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นางเบ็ญจา อายุ 60 ปี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยอง สาขาบ้านค่าย เรียกรับเงินจากผู้เสียหายในการจัดสรรที่ดิน เพื่อแลกกับการรับโฉนดที่ดินที่มีการแบ่งแยกโฉนด เป็นเงินจำนวน


100,000 บาท ซึ่งคิดเป็นแปลงละ 2,000 บาท โดยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าพนักงานคนดังกล่าวถึงกับเป็นลม เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงต้องช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น โบกพัดให้ตลอดเวลา



สำหรับพฤติการณ์ของเจ้าพนักงานที่ดินรายดังกล่าวนั้น สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ส.ค.67 กรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.เกี่ยวกับการกระทำของนางเบ็ญจา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยอง สาขาบ้านค่าย ซึ่งเรียกรับเงินเพื่อให้ได้โฉนดที่ดินที่ได้ยื่นขอ
ทำการจัดสรรที่ดิน โดยได้ชำระค่าคำขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และขอรังวัดแบ่งที่ดินตามใบอนุญาตจัดสรรที่ดิน รวม 54 ไร่ จนเสร็จตามขั้นตอนแล้ว
แต่ถูกเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยองสาขาบ้านค่ายเรียกรับเงินค่าออกใบโฉนดที่ดินดังกล่าวเพิ่มเติม จากค่าธรรมเนียมที่จะต้องชำระอีกจำนวนแปลงละ 2,000 บาท รวมเงินกว่า 100,000 บาท เพื่อแลกกับการได้รับโฉนดที่ดินที่ชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งระหว่างที่กรรมการผู้จัดการบริษัทรายนี้เข้าพบกับผู้ต้องหานั้น ได้ติดอุปกรณ์บันทึกภาพและเสียง ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.



ต่อมา พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้สั่งการให้ กก.2 บก.ปปป.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ติดตามหาตัวผู้ต้องหาและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ในพื้นที่ จ.ระยอง
จนวันที่ 6 ก.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นางเบ็ญจา อายุ 60 ปี เจ้าพนักงานที่ดินระยอง สาขาบ้านค่าย จะมีอายุเกษียณราชการอีก 26 วันนี้ หรือสิ้นเดือนกันยายน 2567 แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน ก่อนเกษียณอายุราชการ ส่วนผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ความผิดดังกล่าวเกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด

You Might Also Like

0 comments