ขณะที่วันต่อมา "แพรวพราว" ออกมาโพสต์ว่า "กูไม่ใช่คนดี100% กูรักองค์กร กูรักครอบครัว" ตนตกใจมาก เพราะตนก็คือผัว แต่ภรรยาโพสต์แบบนั้นโดยที่ไม่มีรูปตนที่เป็นผัว จึงเป็นจุดเดือดแรก ที่วันนั้นทำให้นอนแยกห้องกัน ซึ่งภรรยาก็ไม่มาง้อตน ทั้งที่ ที่ผ่านมามีปัญหาตนเป็นฝ่ายง้อตลอด

ต่อมา "บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" ไปสืบว่าคนที่คุยโทรศัพท์คือ แฟนเก่า ซึ่ง "แพรวพราว" บอกว่า "เป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไร" ตนจึงบอกว่า "ยิ่งแฟนเก่ายิ่งห้ามคุย ขอให้ห้ามคุย ฉันไม่ชอบ" ซึ่งตอนนั้นได้มีการขอโทษกันแล้ว ตนก็ถามภรรยาว่า "ฉันมีอะไรผิดพลาดให้แก้ไขไหม" อีกฝ่ายบอก "ไม่มี เป็นตัวของตัวเองเลย" ตนก็เลยบอกว่า "บล็อกแฟนเก่าไป เพราะเธอมีลูก 2 แล้ว ผัวนั่งอยู่นี่" เรื่องนี้จบไปเมื่อเดือนธันวาคม 2566

ต่อมาเดือนมกราคม 2567 "บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" เล่า กินแอลกอฮอล์กับทีมงาน "แพรวพราว" ก็เมาเลยไปส่งที่บ้าน ก็มีคนส่งข่าวมาว่า "แพรวพราว" ออกมาจากบ้าน มีคนนอนเฝ้าอยู่ประตูหน้าบ้าน ตนเลยดูกล้องวงจรปิดเห็นแอบคุยโทรศัพท์และแอบออกไปประตูหลังบ้าน แต่สุดท้ายมาจ๊ะเอ๋กับตนตอนที่ตนกลับบ้าน ต่อมาทะเลาะกันุรนแรง เป็นครั้งแรกที่ภรรยาพูด "กู-มึง"

ต่อมาตนไปญี่ปุ่นกับลูก 7 วัน "แพรวพราว" คุยโทรศัพท์ตลอดเวลา วางสายกับตนปุ๊บ คุยกับคนอื่นต่อปั๊บ และไปร้านเหล้ากับเพื่อนสาว แต่สุดท้ายจับโป๊ะได้ว่าไปด้วยกันกับผู้ชาย ไปช้อปปิ้งที่ห้าง ผู้ชายอีกคนก็โพสต์สตอรี่ว่าอยู่ร้านเดียวกัน

ฟางเส้นสุดท้าย ตนถามภรรยาว่าจะเอามือมิกซ์ออกจากวงไหม ถามเป็นชั่วโมง แต่ไม่ได้รับคำตอบ มือมิกซ์มีเป็นแสนเป็นล้านในประเทศไทย แต่ไม่ยอมเอาผู้ชายคนนี้ออก

ก่อนจบไลฟ์ "บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" ลั่นว่า "วันนี้ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ทุกกรณีที่เกี่ยวข้องกับวง ขอถอยออกมาเอง รับผิดชอบโดยการถอยออกมาเองจากแสงทองฟินแลนด์ แต่จะดูแลโตเกียวมิวสิคเหมือนเดิม"

"ขอยืนยันว่า ทุกคำที่พูดวันนี้ ซื่อสัตย์สุจริตพูดจริงทุกอย่าง หากข้าพเจ้าพูดเท็จวันนี้ขอให้ข้าพเจ้าจมลงดิน หากข้าพเจ้าพูดจริง ไม่พูดเท็จ ขอให้ข้าพเจ้ารวยๆๆ เจริญๆๆ"

"ส่วนจะปรับตัวเข้าหากันไหม มันหมดเวลาปรับตัวเข้าหากันแล้ว เพราะเขาไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเราแม้แต่นิดเดียว และที่ดินที่ผมซื้อมาจะมอบให้ลูกทั้งหมด